เบอร์โทรติดต่อ
(+66) 2-516-4812
กลไกและหลักการใช้งาน Karakuri Kaizen แบบเรียบง่ายที่มีส่วนช่วยในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดการสูญเสีย สามารถประหยัดต้นทุนและเวลาที่ไม่จำเป็นได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งถูกออกแบบจากประสบการณ์และไอเดียที่หลากหลาย โดยอาศัยพลังงานและหลักธรรมชาติ เช่น แรงโน้มถ่วง หรือแรงจากการไหล ทำให้เกิดกลไกแบบอัตโนมัติ สำหรับใช้ในการปรับปรุงและสรรค์สร้างชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด
หลักการไคเซ็น หรือ Karakuri Kaizen คือ แนวคิดการทำงานแบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ที่มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างยาวนานกว่า 1,300 ปีแล้ว เป็นที่นิยมมากในสมัยเอโดะ โดยจะเน้นให้คนที่ทำงานจริงสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างาน เมื่อพบสิ่งที่เป็นปัญหา ก็จะค่อย ๆ พยายามหาแนวทางแก้ไข ปรับปรุงสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น
การพัฒนาทีละเล็กทีละน้อย แต่เน้นความต่อเนื่อง (Continuous Improvement) คือหัวใจสำคัญของ Karakuri Kaizen เพราะจุดประสงค์ของหลักการนี้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพ แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหน้างาน ลดความซับซ้อน ปรับปรุงการทำงานให้ง่าย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ก่อนจะใช้หลักการ Karakuri Kaizen มาปรับปรุง พัฒนาการผลิต สิ่งที่ต้องทำก็คือการตรวจเช็กพื้นที่หน้างานก่อน เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอน วิธีและกระบวนการต่าง ๆ ในการผลิตอย่างครบถ้วน
คอยสังเกตปัญหาหรือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต แต่ละขั้นตอนต่าง ๆ เป็นอย่างไร มีส่วนไหนที่ซ้ำซ้อน ล่าช้า หรือควรแก้ไข เช่น พนักงานต้องก้ม-เงยเพื่อหยิบชิ้นส่วนในการทำงาน
นำข้อสังเกตมาวิเคราะห์ปัญหา และคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาว่ามีผลเสีย หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานในระยะยาวอย่างไร เช่น หากพนักงานก้ม-เงยบ่อย ๆ ติดต่อกันนาน ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพ และป่วยในที่สุด
เมื่อทราบถึงปัญหา และวิเคราะห์ต่อตามหลักกลไก Karakuri Kaizen จากนั้นก็ดำเนินการค้นหาวิธีการแก้ปัญหา แนวทางที่ดีกว่า เพื่อพัฒนาวิธีการทำงาน ปรับปรุงอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว
นำแนวทางการแก้ปัญหาที่ค้นพบหรือคิดค้นขึ้นมาลองดำเนินการตามแผน อาจจะมีการพัฒนา ปรับปรุง หรือใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม เปลี่ยนขั้นตอน วิธีการทำงานต่าง ๆ ตามหลักการ Kaizen เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการสูญเสีย
เมื่อลองนำแนวทางการแก้ปัญหามาใช้แล้ว จากนั้นจึงตรวจสอบผลลัพธ์ว่าเป็นไปตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ รับฟังความคิดเห็นจากพนักงานที่ทำงานจริง เพื่อพัฒนาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น ก็จะถูกต้องตามหลัก Karakuri Kaizen
วิดีโอสาธิตเกี่ยวกับ CREFORM Karakuri collection เป็นหนึ่งตัวอย่างของกลไก Karakuri Kaizen ในการส่งคืนชิ้นงานที่เป็นกล่องเปล่า ด้วยวิธีการใช้เท้าดันบาร์ จากนั้นอุปกรณ์จะช่วยดันกล่องไปถึงยังที่หมาย ด้วยการส่งแบบซิกแซกที่มีระยะทางสั้น ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน
วิดีโอสาธิตเกี่ยวกับ CREFORM Spacesaving Workbench รถเข็นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่ประกอบด้วยกลไก Karakuri kaizen เพราะเครื่องนี้จะช่วยยกสิ่งของ หรืออุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก ขึ้น-ลงได้ โดยไม่เปลืองแรง ประหยัดเวลา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดเก็บได้ในพื้นที่จำกัด
เป็นอุปกรณ์ลำเลียงสำหรับยกของ หรือยกกล่องเปล่าขึ้นสูงระดับ 2 เมตรโดยใช้หลักการไคเซ็น (Kaizen) เข้ามาปรับปรุงและประยุกต์ในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นกลไกที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อหาชิ้นงานในตำแหน่งที่อยู่สูง หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีความสูงต่างกัน
อุปกรณ์ชิ้นส่วนที่พัฒนาด้วยกลไก Karakuri kaizen อย่าง Release Box จาก CREFORM เป็นชั้นวาง FIFO ที่สามารถวางกล่องชิ้นงาน หรือสินค้าได้ถึง 3 กล่อง เมื่อเริ่มใช้งานและต้องการหยิบวัตถุดิบ กล่องสินค้าที่จัดเก็บไว้ อุปกรณ์นี้ก็จะส่งกล่องที่อยู่ชั้นล่างสุดออกมาให้เราหยิบใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
รถเข็นปรับระดับจาก CREFORM ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ อีกหนึ่งอุปกรณ์ตามหลักการ Karakuri kaizen ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหยิบชิ้นงานที่มีขนาดความสูงเท่ากันได้ ทั้งจำนวน 1 กล่องไปจนถึง 3 กล่อง โดยใช้น้ำหนักที่สมดุลสปริง เพื่อให้ระดับบนสุดคงความสูงที่ใกล้เคียงกัน
หลักการไคเซ็น หรือ Karakuri Kaizen คือ แนวคิดการทำงานแบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต เน้นการสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างาน และหาแนวทางแก้ไขปัญหา ปรับปรุงสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลดความสูญเปล่าในงาน เพิ่มประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
แนวคิด Karakuri Kaizen นั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากประเทศญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี คำว่า Karakuri นั้นสื่อถึงการเคลื่อนที่โดยไม่ใช้ไฟฟ้าหรือลม และหลักการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 18-19 เพราะเป็นกลไกที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความสูญเปล่าในการทำงาน
แนวคิดไคเซ็น (Kaizen) จะเน้นขจัด 3M ที่เกิดขึ้นในงานผลิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุง
ประโยชน์หลักของ Karakuri kaizen คือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวอย่างยั่งยืน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงหน้างานได้ตอบโจทย์ ช่วยประหยัดต้นทุนทั้งแรงงานและเวลา ลดการสูญเปล่าในสายการผลิต
Karakuri Kaizen นั้น เหมาะสำหรับงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะการรับส่งชิ้นงาน เคลื่อนย้ายวัตถุดิบในกระบวนการผลิต การประกอบสินค้า รวมถึงการลำเลียงสินค้า ทั้งยกของขึ้นที่สูงและแนวราบไปยังจุดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดทั้งแรง เวลาและพื้นที่จัดเก็บที่อาจมีจำกัด
บริษัท ครีฟอร์ม ยาซากิ ประเทศไทย (Creform yazaki Thailand) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Yazaki Kako Corporation จากประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1996 จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภท CREFORM และขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ได้แก่ AGV Poka-Yoke Lamp system เป็นต้น